พระเครื่อง เช่าพระเครื่อง ดูพระเครื่อง เปิดร้านเช่าพระเครื่อง ประวัติพระเครื่อง

พระเครื่อง มีพระเครื่องให้ชมและให้เช่ามากมาย มีพระเก่าที่นิยม
และพระใหม่ที่มาแรงอนาคตแพงแน่ คุณสามารถเข้ามาดูพระเครื่องรุ่นดังๆได้ที่นี่
หน้าหลัก  | เข้าระบบร้านค้า  | สมัครเปิดร้านค้า  | พระเครื่อง - วัตถุมงคล  | บทความ  | กิจกรรม  | เว็บบอร์ด  | ติดต่อเรา | ชำระค่าบริการ


หมวดพระเครื่อง
1 . หนังสือพระ [67]
2 . เนื้อดิน [785]
3 . เนื้อชิน [171]
4 . เนื้อผง [3,734]
5 . เนื้อว่าน [330]
6 . เนื้อโลหะ [1,141]
7 . เหรียญ [6,253]
8 . เครื่องราง [278]
9 . พระปิดตามหาอุตต์ [79]
10 . จตุคามรามเทพ [21]
11 . พระบูชา [100]
12 . ล็อกเก็ต รูปถ่าย [246]
13 . ของเก่า [33]
14 . อื่นๆ [99]
 
ค้นหาพระเครื่อง หนังสือ วัตถุมงคลอื่นๆ :

คำศัพท์เซียน/ศัพท์นักเลงพระ(1)
วันที่ : 26 กันยายน 2554




รายละเอียด :
คำศัพท์เซียน/ศัพท์นักเลงพระ
ศัพท์เซียน
• เก๊
หมายถึงพระไม่แท้ พระไม่ได้มาตรฐาน ตามสากลนิยม
• นั๊ง
หมายถึง การร่วมลงทุนเช่าพระ ส่วนผลประโยชน์หลังจากการปล่อยพระไปก็แบ่งไปกันตามส่วนที่ลงทุน ส่วน นั๊งลม ภาษาเซียนพระ ก็คือ คนที่เข้าไปร่วมเช่าพระด้วยนั้น ไม่ต้องนำเงินไปร่วมลงทุนด้วย แต่ นั๊งลมนั้น ผลตอบแทนหลังการปล่อยพระไปก็ว่ากันไปตามแต่ที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้าที่จะเช่าพระองค์นั้น
• ตกควาย
หมายถึงขายพระผิดราคา เช่น พระองค์นี้วงการเขาซื้อขายกันเป็นหมื่น แต่ดันไปขายในราคาต่างจากความเป็นจริงมาก เช่นขายแค่หลักร้อย อย่างนี้เรียกว่าตกควาย โดนขวิดตายสนิท
• กรรมการ
คือเซียนพระที่ได้รับมอบหมายในการรับพระเข้าประกวด แล้วต้องตัดสินชี้ขาดว่า องค์ไหนเก๊ องค์ไหนแท้ องค์ไหนสวยที่สุด องค์ไหนสมควรจะได้รางวัลที่ 1,2,3,ชมเชย ส่วนมากกรรมการจะต้องเป็นเซียนพระที่มีความรู้ มีความยุติธรรม สายตาดี ฯลฯ ในการประกวดพระแต่ละประเภท จะต้องใช้กรรมการ ตัดสินชี้ขาดไม่ต่ำกว่า 4-5 คน แต่มีคนพูดกันมากเลยว่า กรรมการ ก็คือ คนที่ตัดสินเอง, รับรางวัลเอง หรืออาจจเป็นคนที่มีพระติดรางวัลมากที่สุด ก็พูดกันไป ใครจะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ ต้องคิดกันเอาเอง
• เล่นพระด้วยหู
ก็คือ การเล่นพระ หรือ การเช่าพระโดยไม่ใช้สายตาและประสบการณ์ เป็นตัวตัดสินใจว่าพระเก๊ หรือพระแท้ แต่กลับไปฟังเรื่องเล่า ประวัติที่มาของพระองค์นั้นว่ามาอย่างไร การเล่นพระด้วยหู ส่วนมากจะไปจบกันที่ คนซื้อเป็นเหยื่อของคนขาย ก็คือ พระเก๊ 100%
• ถูกทุบ
คือ คน หรืออาจจะเป็นเซียนพระที่เช่าพระเป็นหลักล้าน หลักแสน หลักหมื่น แต่ราคาจริงๆ ของพระองค์นั้น อาจจะราคาต่างกันลิบลับ เช่น ซื้อมาหลักแสน แต่คนอื่นมาขอซื้อหลักร้อย อย่างนี้เขาเรียกว่าโดนทุบเละ โดยใช้ค้อนปอนด์ ไม่ใช่ค้อนธรรมดาทุบแล้วครับ
• มีอะไรไหม, ได้พระอะไรปล่าว...
เป็นคำทักทายของเซียนพระกับ เซียนพระด้วยกันว่า แต่ละคนได้พระอะไรมาใหม่ บ้างหรือเปล่า ใครได้พระอะไรก็นำออกมาโชว์ นำออกมาขายกัน นำออกมาทุบกัน ฯลฯ
• ชินเงิน
มิได้หมายความอย่างที่บางท่านเข้าใจว่า ใส่เนื้อเงินลงไป แต่จริงๆแล้วก็คือ การเอาเนื้อตะกั่ว + ดีบุก มาผสมกัน แต่มีเนื้อของดีบุกมากจึงทำให้ผิวออกขาวเหมือนผิวปรอท จึงแวววับจับตา จึงทำให้เราท่านเรียกเนื้อพระประเภทนี้ว่าชินเงิน สนืมความเก่าของเนื้อพระชนิดนี้จะระเบิด ปะทุตัวจากภายในสู่ภายนอก เริ่มจากเล็กไปหาใหญ่ (หากท่านมีพระประเภทนี้โปรดหยิบขึ้นมาพิจารณาจะทราบความจริง ) ผิวดำเล็กๆบนผิวพระ เมื่อท่านสังเกตดูให้ดีจะพบว่า มิได้ดำเป็นปืน แต่ดำปะทุเหมือนเม็ดผด ส่วนที่ระเบิดใหญ่ขึ้นจะเป็นขุมๆและเป็นชั้นๆ นี่คือลักษณะเฉพาะของชินเงิน
• ชินตะกั่วสนิมแดง
เนื้อนี้เกิดจากการผสมระหว่างตะกั่ว+เหล็ก(อ๊อกไซด์) เนื่องจากเนื้อโลหะประเภทนี้เป็นตะกั่วโลหะหนักถึง 80% ส่วนอีก 20 % นั้นเป็นอ๊อกไซด์ของเหล็ก ส่วนไขขาว เกิดจากอ๊อกไซด์ ของตะกั่ว อัตราการผุกร่อนของเนื้อประเภทนี้ค่อนข้างยากกว่าเนื้อชินเงิน เพราะมีเปอร์เซ็นต์ของตะกั่วมากกว่า เนื้อตะกั่วเป็นโลหะที่เสถียรภาพแล้ว และตามหลักเคมีคือเป็นยูเรเนียมตัวสุดท้ายของตารางธาตุ ส่วนการแดงของสนิมในเนื้อนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ และที่สำคัญ ตัวแปรคือน้ำ ถ้าแหล่งไหนมีน้ำท่วมถึง มักจะทำให้พระที่ทำจากโลหะนี้มีความแดงสูงมาก เนื่องจากน้ำเป็นตัวแปรสำคัญในการเกิด Oxidation ปฏิกิริยา การเกิดสนิมนั่นเอง
• ชินตะกั่ว
ชินตะกั่วเป็นเนื้อโลหะที่เกิดจากตะกั่ว 100% ไม่มีวัสดุอื่น หรือแร่โลหะอื่นใดปลอมปนอยู่เลย เนื้อโลหะประเภทนี้มักอ่อนตัวง่าย จุดหลอมเหลวต่ำมาก เมื่อโดนสัมผัสผิวภายในขาวดุจเงินยวง สามารถขีดกระดาษติด มักจะถูกนำเป็นถ้ำใส่ใบชา จึงมีชื่อว่า ตะกั่วถ้ำชา หรือ ตะกั่วดำ และด้วยคุณสมบัติอ่อนนุ่ม และเมื่อโดนสัมผัสจะขาวใส ดุจเงินยวง และกลับดำอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกอากาศ จึงถูกขนานนามว่าตะกั่วน้ำนม เรามักจะพบตะกั่วชนิดนี้ในพระประเภทคณาจารย์มากกว่า พระกรุ อาทิเช่น หลวงปู่เนียมวัดน้อย จ.สุพรรณบุรี, หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ฯลฯ เนื่องจากเป็นโลหะ ซึ่งหลอมละลายง่าย และขึ้นรูปง่าย สะดวกต่อการทำพิมพ์ ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในการสร้างพระเครื่อง และตะกรุดของคณาจารย์ต่างๆ
• ชินเขียว
นั้นเกิดจาก ตะกั่ว + สังกะสี + แมกนีเซียม เป็นเนื้อโลหะ ที่มีความเปราะมากกว่า เนื้อตะกั่วชนิดอื่น เนื่องจากมีสังกะสี สนิมที่เกิดขึ้นมักจะเป็นไขตามประสานักเลงพระ เรียกกันว่า ไขไข่แมงดา ไขชนิดนี้จะเป็นลักษณะทับถม ดูแล้วเหมือนช้ำเลือกช้ำหนอง มองดูแล้วคล้ายไข่ของแมงดานา ชินเขียวนี้ นักเลงพระยุคเก่าๆ มักจะไม่ค่อยให้ความเชื่อถือมากนัก เนื่องจากมีการปลอมแปลงมานานกว่า 60 ปีมาแล้ว โดยใช้วิธีพิศดารล้ำลึก โดยการหมักกับยูเรีย และยูเรียหาได้จากที่ไหน คิดกันเอาเอง เนื่องด้วยสังกะสี จะมีปฏิกิริยารวดเร็วกับยูเรีย ทำให้เกิดไขไข่แมงดาเร็วขึ้น ในปัจจุบันนี้ในวงการพระเครื่องยอมรับพระเนื้อชินเขียวกันมากขึ้น และท่านล่ะ คิดอย่างไร
• พระงั่ง
ก็คือ พระบูชาปางนั่งสมาธิ ที่สร้างในสมัยอยุธยา เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ หน้าตัก ประมาณ 1-3 นิ้ว ซึ่งคนในสมัยก่อนเข้าใจว่า พระงั่ง ก็คือ พระแก้บนนั่นเอง
• การันตี
เป็นการรับรอง หรือรับประกัน ในวงการพระส่วนมากจะมีการรับประกัน หรือ การันตี อยู่ 2 กรณีคือ
1. เป็นการการันตีหรือรับประกันว่า พระองค์นั้นแท้
2. เป็นการการันตีหรือรับประกันว่า พระองค์นั้นไม่มีซ่อม
ถ้าการันตี อยู่ในเงื่อนไขอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น เช่น ถ้ามีการการันตีพระแท้ ถ้าพระไม่แท้ ยินดีรับคืนในราคาที่เช่าไป ถ้ากรณีอย่างนี้ ถ้าพระมีปัญหา เจ้าของพระก็ต้องรับเช่าพระองค์นั้นคืนไว้ โดคืนเงินผู้เช่าไป เป็นไปตามข้อตกลง โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
• พระมีอุด พระมีซ่อม
ความหมายก็คงมีอยู่ในตัวคือ พระที่มีการต่อเติมเสริมแต่ง จากสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ให้กลับไปอยู่นสภาพที่สมบูรณ์ โดยการต่อ อุด ทำผิวใหม่ ฯลฯ พระลักษณะอย่างนี้ ต้องมืออาชีพอย่างเดียว ถึงจะทราบว่า พระองค์นี้หักตรงไหน ซ่อมมาอย่างไร หรืออีกอย่างก็คือ ต้องเอ๊กซเรย์อย่างเดียว เป็นคำตอบสุดท้ายครับ
• พระเหนียว
คงหมายถึง พระที่มีพุทธคุณเด่นไปในทางคงกระพันชาตรี
• พระเกจิ
คือพระ หรือวัตถุมงคลต่างๆ ที่ได้มีการจัดสร้างขึ้นมาโดยเกจิอาจารย์ยุคต่างๆ ทั้งยุคก่อนจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน หรืออาจจะพูดง่ายๆอีกอย่างหนึ่งก็คือพระที่ไม่ได้ขึ้นมาจากในกรุ หรือที่เรียกว่าพระกรุนั่นเอง
• พระเดิมๆ
จะมีความหมายตรงข้ามกับ พระอุด พระซ่อม จึงทำให้พระที่อยู่ในสภาพเดิมๆ ปราศจากการอุด, ซ่อม, ล้าง, ฟอกสี ฯลฯ เป็นที่ต้องการของนักสะสมมาก จึงทำให้มีราคาที่สูงกว่าพระที่สภาพไม่เดิมครับ
• ฟันธง
เป็นการนำประสบการณ์ วิชาความรู้ แล้วนำไปพิจารณา วิเคราะห์พระ ว่าพระนั้นแท้ หรือ เก๊ อย่างไร แต่การชี้ชัดว่าพระนั้น แท้หรือเก๊ นั้นต้องถูกต้องตามมาตรฐานสากลนิยม เซียนพระคนใด ถ้าสามารถฟันธงได้ว่า พระนั้นแท้หรือเก๊ก็สามารถบอกได้ว่า เซียนคนนั้นดูพระขาด เหมือนกับ ชนิดฟ้าแลบแปลบๆ ยังสามารถฟันธงได้เลย อย่างนี้สิเก่งจริงครับ
• อยู่กับก๋ง
เป็นศัพท์เซียนที่นักเล่นพระหรือเซียนพระ ไม่ชอบเอาเสียเลย พูดง่ายๆก็คือ เกลียดเอามากๆ เกลียดเป็นชีวิตจิตใจ ก็คือ เวลาที่เซียนพระ ซื้อพระมาแล้ว แต่นำไปขายต่อไม่ได้ ไม่มีใครซื้อ ไม่มีใครเหลียวแล หรืออาจจะซื้อพระมาราคาแพงกว่าราคาตลาด แล้วทำให้ไม่มีใครซื้อไป อย่างนี้แหล่ะ เค้าเรียก อยู่กับก๋ง หรือ ก๋งกับอยู่
• พระฝิ่น
ไม่ใช่พระติดฝิ่น ติดยาเสพติดนะครับ แต่ก็มีความหมาย เดียวกับคำว่าพระเก๊ ก็คือพระไม่แท้ พระไม่ได้มาตรฐานตามหลักสากลนิยม
• เก่าไม่รู้ที่ ดีไม่รู้วัด
ความหมายก็บอกอยู่ในตัวอยู่แล้ว ก็คือเป็นพระแท้ และก็เป็นพระที่สร้างกันมานาน และที่สำคัญ ไม่ทราบประวัติความเป็นมา ว่าใครเป็นผู้สร้าง และสร้างมาจากวัดไหน อย่างไร
• ผีสนาม
ส่วนมากจะมีในสนามพระกล่าวคือ ต้องเป็นบุคคล ที่พอจะมีความรู้เรื่องพระ มีอัธยาศัยที่ดี เข้ากับเซียนพระต่างๆได้ทั่วสนาม แต่ไม่มีร้านเป็นของตัวเอง บางคนออกจะเก่ง บางคนอาจจะพอเป็น บางคอาจจะไม่เป็นพระเลย คอยทำหน้าที่ เป็นเซลส์แมน หรือพนักงานขายคอยนำพระองค์นั้น หรือ องค์นี้ ไปเสนอเซียนพระต่างๆในสนาม ถ้ามีการตกลงซื้อขายกัน ก็จะได้ค่าเดินหรือค่านายหน้าตามแต่ที่ตกลงกัน อีกกรณีหนึ่ง ผีสนาม เคยสังเกตุไหม เวลาเดินเข้าสนามพระ จะมีคนมาถามว่า มีพระมาดูไหมครับ มีพระอะไรมาขายไหมครับ ในคอห้อยพระอะไรขอชมหน่อยพี่ คนที่ต้องคำถามเหล่านี้แหล่ะเค้าเรียกผีสนาม ผีสนามบางคนเก่งกว่าเซียนพระก็ถมไป ผีสนามถ้ามีความสามารถพอ มีทุนพอก็จะไต่เต้าขึ้นมาเป็นเซียนพระ มาเซ้งร้าน เปิดเป็นร้านของตัวเอง ก็ไม่ใช่ผีสนามอีกต่อไปแล้วครับ
• จอง
เป็นการบอกเจตนารมณ์ของนักเล่นพระว่าต้องการจะเช่าพระองค์ใดองค์หนึ่ง แต่ติดอยู่ที่ขั้นตอนบางอย่าง จึงทำให้ ไม่สามรถเช่าพระองค์นั้นได้ เช่น เซียนไก่กำลังตกลงจะเช่าพระจากคนที่นำมาปล่อยที่ร้านของเซียนไก่ แต่บังเอิญเซียนเป็ด เดินมาเห็นพอดี แต่การซื้อขายระหว่างเซียนไก่กับเจ้าของพระกำลังต่อรองราคากันอยู่ การซื้อขายจึงยังไม่เสร็จสิ้น เซียนเป็ดจึงเดินไป กระซิบเซียนไก่ว่า ตัวเองจองพระองค์นั้นนะ เป็นที่รู้กันว่า ถ้าการซื้อขายระหว่างเซียนไก่กับเจ้าของพระจบลง เซียนเป็ดต้องเป็นคนที่จะซื้อพระองค์นั้นเป็นคนแรก ห้ามนำไปขายให้ใคร ถ้าเซียนเป็ดไม่เอาหรือไม่ซื้อ เซียนไก่ถึงนำไปขายคนอื่นได้ อย่างนี้แหละครับ นี่แหล่ะกฏกติกามารยาทของนักเล่นพระล่ะครับ
• แผงจร
เป็นการเปิดให้เช่าพระ โดยมีอุปกรณ์คือ มีโต๊ะ 1 ตัว + เก้าอี้นั่ง 1 ตัว + ตู้วางพระ 1 ใบ แผงจรนั้น ส่วนมากจะมีตามงานประกวดพระทั่วๆไป ตลาดนัดพระเครื่อง ตามสถานที่ต่างๆ นับว่าแผงจร มีบทบาทต่อเซียนพระมาก เพราะเซียนพระทั่วๆไป จะมาเดินเช่าพระจากพวกพระแผงจร แล้วนำไปวางให้เช่าในร้านของตัวเองอีกที ค่าใช้จ่ายในการวางพระแผงจร จะเฉลี่ยตกอยู่ระหว่าง20 - 200 บาทต่อวัน
• ฟลุ๊ค
ไม่ใช่แฟนคุณโบนะครับ แต่เป็นการได้รับเช่าพระไว้ในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมากๆ และก็ปล่อยพระองค์นั้นได้ในราคามหาศาล เช่น เช่าพระสมเด็จไว้ราคา 100 บาท แต่ปล่อยออกไปได้ราคา 1,000,000 บาท กำไรนิดเดียวเอง แค่999,900 บาท เท่านั้นเอง อย่างนี้แหล่ะ เค้าเรียกว่าฟลุ๊ค
• แท้ แต่เขาไม่นิยมเล่นกัน
คำนี้ ส่วนมากจะใช้กันระหว่างคนที่จะนำพระไปปล่อยในสนามพระต่างๆ เป็นการตอบปฏิเสธการไม่รับเช่าพระแบบนุ่มนวล ไม่หักหาญน้ำใจ โดยไม่ให้เจ้าของพระเสียความรู้สึก ว่าพระของตัวเองเก๊ นั่นแหล่ะครับ

ขอบคุณที่มาจากศูนย์พระดอทคอม
เผยแพร่ ธงดำ
พิมพ์ มือขวา ธงดำ(ภู่กันดอย)
อ้างอิง http://www.oknation.net/blog/doipui/2008/06/06/entry-3


พบทั้งหมด 0 รายการ รวมทั้งหมด : 1 หน้า :


แสดงความคิดเห็น
ชื่อ :
ข้อความ :
 
  หากต้องการเปลี่ยนตัวอักษรกรุณาคลิกที่รูป
กรอกตัวอักษร :
 


 
หน้าหลัก | เข้าระบบร้านค้า | สมัครเปิดร้านค้า | เช่าพระ - วัตถุมงคล |เว็บบอร์ด | ติดต่อเว็บมาสเตอร์ | ชำระค่าบริการ
Mirakar@ copyright 2009 created by www.mirakar.com
พระเครื่อง ดูพระ เช่าพระ ที่อยู่ : 222/5 ถนนหลานหลวง ป้อมปราบ กรุงเทพฯ 10100 อีเมล :