พระเครื่อง เช่าพระเครื่อง ดูพระเครื่อง เปิดร้านเช่าพระเครื่อง ประวัติพระเครื่อง

พระเครื่อง มีพระเครื่องให้ชมและให้เช่ามากมาย มีพระเก่าที่นิยม
และพระใหม่ที่มาแรงอนาคตแพงแน่ คุณสามารถเข้ามาดูพระเครื่องรุ่นดังๆได้ที่นี่
หน้าหลัก  | เข้าระบบร้านค้า  | สมัครเปิดร้านค้า  | พระเครื่อง - วัตถุมงคล  | บทความ  | กิจกรรม  | เว็บบอร์ด  | ติดต่อเรา | ชำระค่าบริการ


หมวดพระเครื่อง
1 . หนังสือพระ [67]
2 . เนื้อดิน [785]
3 . เนื้อชิน [171]
4 . เนื้อผง [3,734]
5 . เนื้อว่าน [330]
6 . เนื้อโลหะ [1,141]
7 . เหรียญ [6,253]
8 . เครื่องราง [278]
9 . พระปิดตามหาอุตต์ [79]
10 . จตุคามรามเทพ [21]
11 . พระบูชา [100]
12 . ล็อกเก็ต รูปถ่าย [246]
13 . ของเก่า [33]
14 . อื่นๆ [99]
 
ค้นหาพระเครื่อง หนังสือ วัตถุมงคลอื่นๆ :

พล.ต.เอกนันท์ รัตนโสภา รอดตายเพราะ...ห่มผ้าพระปฐมเจดีย์
วันที่ : 10 ตุลาคม 2554




รายละเอียด :


พล.ต.เอกนันท์ รัตนโสภา รอดตายเพราะ...ห่มผ้าพระปฐมเจดีย์
พระสมเด็จ วัดระฆัง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และ พระสมเด็จบางขุนพรหม หากใครครอบครองเอาไว้ในเชิงพุทธพาณิชย์คงเช่าหากันเป็นล้าน ทางกลับกัน พระสมเด็จ รุ่นเพดานโบสถ์ วัดพระแก้ว ที่วงการพระเครื่องไม่นิยมเช่าหากัน จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม พล.ต.เอกนันท์ รัตนโสภา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๑๔ ในฐานะบิดาของนักแสดงสาว "ครีม" เปรมสินี รัตนโสภา ให้ข้อคิดว่า พระสมเด็จองค์นี้ได้มาจากนายทหารท่านหนึ่ง ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีมูลค่าอะไร แขวนติดตัวเพราะนับถือให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยพระสมเด็จองค์นี้ยังมีพระประจำวันอยู่ในองค์อย่างสมบูรณ์
พล.ต.เอกนันท์ อธิบายว่า เป็นคนแขวนพระเครื่อง แต่ไม่ได้แขวนตามความเชื่อในหลวงพ่อองค์นั้น หรือองค์นี้ต้องดี กลับมองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจ ยิ่งพระสมเด็จองค์นี้ที่ชอบเนื่องจากมีพระธาตุประดิษฐานอยู่ในองค์พระด้วย ส่วนด้านหลังขององค์พระสมเด็จ เป็นองค์เสด็จพ่อ ร.๕ ประกอบกับเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อย จปร.เพราะถือว่าพระองค์ท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ ทำให้เราทำความดีเพื่อชาติบ้านเมือง และเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ ที่ชีวิตเฉียดตายมาถึง ๓ ครั้งไม่เป็นอะไรครั้งแรก เกิดขึ้นระหว่างขับรถจากลพบุรี เข้ามาประชุมในกรุงเทพฯ พอประชุมเลิกหกโมงเย็น ปกติจะนอนที่บ้านเลย แต่วันนั้นเห็นว่า ยังมีงานด่วนที่ต้องกลับไปทำ ถ้าไม่กลับไปทำเดี๋ยวงานไม่เสร็จ จึงขับไปกับลูกน้อง ใช้ความเร็วประมาณ ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทันใดนั้น รถเกิดชนกันที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เชื่อไหมว่า ทั้งตัวกระเด็นออก แต่เข็มนิรภัยก็ตีกลับมา ส่วนรถก็ม้วนตีลังกา จังหวะนั้นมีสติมองเห็นภาพที่รถตัวเองกำลังลอยอยู่บนอากาศจะรู้สึกตัวตลอด มันเป็นภาพที่เหมือนดูหนังแบบ
สโลว์โมชั่น เมื่อรถหยุดนิ่งตั้งตะแคงรู้สึกทันทีว่าตัวเองติดอยู่กับเบาะ ส่วนลูกน้องเจ็บหนัก พวงมาลัยที่จับบิดเกือบเหมือนเลขแปด อีกใจก็นึกถึงรถว่ารถจะยังไงบ้าง เป็นเรื่องแปลกอย่างมากที่ตัวเองไม่เป็นอะไรเลยครั้งที่สอง เกิดขึ้นตอนนั่งเฮลิคอปเตอร์ออกตรวจพื้นที่ โดยออกบินจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศตะวันตก ช่วงประมาณเจ็ดโมงเช้า หมอกลงจัดทำให้อากาศปิด หากฝืนบินต่อไปคงไม่ได้ต้องหาทางลง แต่นักบินบอกลงไม่ได้ เนื่องจากมองไม่เห็นสนาม
ต้องบินลุยหน้าไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็นั่งสวดมนต์คิดว่าไม่นานน่าจะพ้นจากสภาพหมอกที่ทำให้อากาศเกิดวิกฤติ พอนั่งนับว่าเวลาผ่านไป ๔๐ นาที แล้วหมอกก็ยังไม่จางเลย ใจก็เริ่มเสียแล้ว สวดมนต์ก็เริ่มตีกันไปตีกันมา ใจก็นึกถึงลูก ภรรยา บิดามารดา นักบินบอกอีกว่าจะต้องเอาเครื่องลงแล้วเพราะบินต่อไปคงต้องเข้าประเทศพม่า เครื่องวัดระดับในเฮลิคอปเตอร์เกิดไฟฟ้าสถิตทำให้ทุกปุ่มที่จะใช้สื่อสารก็เสียทั้งหมด นักบินบอกรู้ทิศทาง แต่จริงๆ ทุกคนใจเสียกันหมดแล้ว นักบินก็ฉลาดเหมือนกันเขาเอาสร้อยที่มีพระมาแขวนไว้หน้าคนขับเพื่อจับระดับความสูง พอเอาเครื่องลงทุกคนก็คิดกันว่ายังไงเครื่องต้องกระแทกกับต้นไม้หรือภูเขา พอลดระดับลงมาเครื่องตุ่มๆ จาก ๒,๐๐๐ ฟิต ๑,๐๐๐ ฟิต จนกลายเป็นศูนย์ "โชคดีที่เครื่องสามารถเบรกได้ ๑ ครั้ง แล้วก็เหมือนว่ามองเห็นหนองน้ำและรถแม็คโคร ซึ่งเครื่องลงห่างจากพระปฐมเจดีย์ประมาณ ๘ กิโลเอง ชาวบ้านบอกว่าได้ยินเสียงเครื่องเฮลิคอปเตอร์ดัง เขาจึงตามมาเพื่อจะมาเก็บศพพวกเรา นั่งทำใจกันเป็นชั่วโมง" พล.ต.เอกนันท์ เล่าต่อว่า
เหตุการณ์ครั้งที่สาม เกิดขึ้นก่อนคืนวันลอยกระทงปี ๒๕๔๙ ที่รอบๆ ค่ายทหารราบที่ ๑๑ บางเขน จะมีเด็กจุดพลุกันเสียงดังไปหมด ก่อนเข้านอนก็สวดมนต์เป็นประจำ หลังสองยามเข้านอนตามปกติ ประมาณตีสองมีเสียงปั้งดังมาก ภรรยา (วิลาสินี) ก็ปลุกว่ามีเสียงอะไรดัง ดังแบบมีแสงสว่างด้วย เป็นจังหวะที่กำลังง่วงนอนมาก ก็ตอบกลับไปว่าไม่มีอะไรหรอก นอนๆ ภรรยาก็ปลุกอีกมันทำไมถึงมีแสง พอเอามือไปคำๆ ที่หมอน มีความรู้สึกว่ามันเป็นเศษปูนละเอียดกระจายเต็มห้องไปหมด เมื่อเริ่มเปิดไฟ ก็เห็นรูตรงฝาผนังบ้านเหมือนใครเอาสว่านมาเจาะเป็นรูใหญ่ แต่สัญชาตญาณเรารู้เลยว่าเป็นกระสุน ๑๑ มม. พอสำรวจก็พบว่าลูกกระสุนที่ยิงเข้ามาทะลุฝาผนังสังเคราะห์เฌอร่า เฉียดศีรษะที่กำลังนอนอยู่บนหมอนไม่สูง หากคืนนั้นนอนหนุนหมอนที่สูงกว่าเดิมอีกนิดเดียวกระสุนลูกนี้คงเข้าศีรษะหลับไปแบบไม่รู้สึกตัวเป็นแน่ รุ่งเช้าให้นายทหารไปตรวจสอบก็พบว่าคืนนั้นนักเลงมีเรื่องกันแล้วยิงปืนบนสะพานข้ามคลอง
"เชื่อไหมว่า เหตุการณ์ครั้งที่ 3 รอดตายมาได้เพราะมีพระรูปหนึ่งแนะนำให้ไปห่มผ้าพระปฐมเจดีย์ ไปห่มได้เพียง วันเดียวเกิดเหตุ จึงมานั่งคิดว่าคงเป็นบุญที่เราทำแน่แล้ว หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมามันสอนเราว่าถ้าคนเราไม่ถึงที่ตายก็ไม่ตาย แล้วถ้าคนเราจะตายอยู่ที่ไหนก็ตาย ใครทำกรรมอะไรไว้ไม่ดีย่อมได้รับผลกรรมนั้น" พล.ต.เอกนันท์ กล่าวทิ้งท้าย



ความคิดเห็นที่ 1
ชอบพระเครื่อง ครับ
จาก : เจน   เมื่อ : 2013-06-22 17:46:54   ID : 526   [ แจ้งลบ ]

ความคิดเห็นที่ 2
ท่านนายพลเขาเปนคนดีมากคราฟ พระต้องอยู่กลับคนที่ดีแบบท่าน
จาก : บรรเจิด แสงเดช   เมื่อ : 2012-11-12 10:04:30   ID : 433   [ แจ้งลบ ]

ความคิดเห็นที่ 3
ผ้ปฏิบัตในคุณงามความดีถือศิล5อย่างท่านสมควรยกย่องและเอาอย่างพระพุธเจ้าจงคุ้มครองครับ
จาก : สมควร ม่วงคำ   เมื่อ : 2011-11-11 04:43:03   ID : 31   [ แจ้งลบ ]
พบทั้งหมด 3 รายการ รวมทั้งหมด : 1 หน้า :


แสดงความคิดเห็น
ชื่อ :
ข้อความ :
 
  หากต้องการเปลี่ยนตัวอักษรกรุณาคลิกที่รูป
กรอกตัวอักษร :
 


 
หน้าหลัก | เข้าระบบร้านค้า | สมัครเปิดร้านค้า | เช่าพระ - วัตถุมงคล |เว็บบอร์ด | ติดต่อเว็บมาสเตอร์ | ชำระค่าบริการ
Mirakar@ copyright 2009 created by www.mirakar.com
พระเครื่อง ดูพระ เช่าพระ ที่อยู่ : 222/5 ถนนหลานหลวง ป้อมปราบ กรุงเทพฯ 10100 อีเมล :